นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ตั้งอยู่ที่ ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เนื่องจากจังหวัดชลบุรีอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯและมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม จึงเป็นปัจจัยให้ได้รับเลือกเป็นจังหวัดหนึ่งในโครงการระเบียง เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) โดยพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเริ่มมีการพัฒนามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "เขตเศรษฐกิจแหลมฉบัง" ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525 -2529) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2530 - 2534) เพื่อเป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเล และศูนย์กลางพาณิชย์อุตสาหกรรมเพื่อส่งออก จึงเปรียบเสมือนประตูแห่งใหม่ในการค้าขายกับประชาคมโลก และการที่มีประชากรจากทั่วภูมิภาคของประเทศเดินทางเข้ามาใช้แรงงานในภาคอุตสาหกรรม เกษตร และบริการ การที่มีประชากรหนาแน่นและมีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจสูง เป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลได้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานพร้อมสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ มูลค่กว่าพันล้านบาทเพื่อรองรับผู้มาลงทุนตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้มีโรงงานอุตสาหกรรมประเภทยานยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นสัดส่วนถึง 41.66 % ของจำนวนโรงงานทั้งหมดในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ด้วยพื้นที่ที่เหมาะสมและมีศักยภาพประกอบกับมีโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเป็นปัจจัยสำคัญ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังจึงเป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่และมีแนวโน้มต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S Curve) ที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth)

ระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก

ระบบน้ำประปา

• โรงผลิตน้ำประปาของนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กำลังการผลิต 27,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
• รับน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำหนองค้อ จ.ชลบุรี
• ระบบส่งน้ำ Gravity Flow

ระบบไฟฟ้า

• สถานีไฟฟ้าย่อย 2x40 เมกกะโวลต์ แอมแปร์
• โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานไอน้ำ ขนาด 100 กิโลโวลต์ ดำเนินงานโดยเอกชน

ระบบโทรศัพท์

• มีระบบ Teleport บริการ โทรศัพท์ภายในและระหว่างประเทศ
• โครงข่าย สายบริการมากกว่า 7,000 เลขหมาย
• บริการสื่อสารรวมระบบดิจิตอล (ISDN)
• บริการ CAT Executive Telecard, Telex, Thaipak, Video Conference

ระบบบำบัดน้ำเสีย

• เป็นระบบ Activated Sludge ชนิด Extended Aeration
• ปัจจุบัน นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ใช้น้ำประปาเฉลี่ย 21,800 ลูกบาศก์เมตร/วัน และมีปริมาณน้ำเสียเฉลี่ย 6,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน มาผลิตเป็นน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมด้วยระบบรีเวอร์ส ออสโมซิส (Reverse Osmosis,RO) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้น้ำบริสุทธิ์กว่าระบบผลิตน้ำทั่วไป

ระบบถนน

• ถนนสายหลักกว้าง ประมาณ 20 เมตร
• ถนนผิวจราจร มาตรฐานเข้าถึงโรงงานอย่างสะดวกสบายทุกจุดในโครงการ

ระบบป้องกันน้ำท่วม

• มีคลองระบายน้ำฝนสายหลัก 2 สายสามารถรองรับน้ำจากโรงงาน ไหลลงสู่คลองระบายน้ำ