โครงการนิคมอุตสาหกรรมซึ่งพัฒนาโดย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารงานและเป็นบริษัทในเครื่อของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ เริ่มมีการพัฒนาที่ดิน, ระบบสาธารณูปโภคและนิคมอุตลาหกรรมตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบัน ตามแผนการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ซึ่งกำหนดพื้นที่เป้าหมาย 3 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา โดยแนวดิดการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในขณะนั้น จะพยายามรวมกลุ่มและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมที่เกื้อหนุนเกี่ยวเนื่อง ให้อยู่ตัวยกันในลักษณะ "คลัสเตอร์ (Cluster)" เช่น ยานยนต์ และชิ้นส่วน, ปีโตรเคมีและเคมีภัณฑ์, กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กกลางน้ำและปลายน้ำ, กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและส่งเสริมการผลิต ฯลฯ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในขณะนั้น โดยการรวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์ จะช่วยให้กลุ่มธุรกิจที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันอยู่ด้วยเป็นพื้นฐาน อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพการผลิตกิจการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงวัตถุติบและผลิตภัณฑ์ ระบบการขนส่งเกิดประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียพลังงาน เพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขัน โดยรวม รวมทั้งประโยชน์ในเชิงการพัฒนาพื้นที่ซึ่งจะช่วยในการลดความสูญเสียของระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้าและน้ำประปา มีระบบ ควบคุมดูแลด้านสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพและสามารถตรวจสอบได้ ปัจจุบัน รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีรวมทั้งนโยบายในการพัฒนาเชิงพื้นที่ โตยมี โดรงการลงทุนและพัฒนาโดรงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ๆ ได้แก่ การพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ให้เป็นเมืองการบินภาคตะวันออก (Eastem Airport City) เตรียมรับผู้โดยสาร 15, 30 และ 60 ล้านคนในอนาคต พัฒนา 3 ท่าเรือน้ำลึก ได้แท่ ท่าเรือแหลมฉบังะยะที่ 3, ท่าเรือมาบตาพุดและสัตหีบ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน เป็นตัน รวมทั้งได้ประกาศให้พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกขึ้น (Eastern Economic Corridor, EEC) และกำหนดเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษขึ้นเพื่อพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษด้านใดต้านหนึ่งหรือหลายต้านหรือเพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจการที่เกี่ยวเนื่องหรือเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา และส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ โดยอาจรวมถึงอุตสาหกรรมการบริการ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการจัดประชุม หรืออุตสาหกรรมอื่นใดด้วยก็ได้ โดยร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันอก ได้ทำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่, อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ,การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ, การแปรรูปอาหาร, หุ่นยนต์, การบินและโลจิสติ๊กส์, เชื้อเพลิงชีวภาพและ เคมีชีวภาพ, ดิจิทัล และการแพทย์ครบวงจร ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต (New Engine of Growth) และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยภาพรวม
บริษัท อีสเทิร์นอินตัสเตรียลเอสเตท จำกัด ได้พัฒนาโดรงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก(มาบตาพุด) เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง โดยมีพื้นที่รวมแล้วประมาณ 3,747 ไร่ มีความพร้อมในการยกระดับเป็นเขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการลงทุนในกลุ่ม อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ ได้แก่อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemicals) รวมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและทันสมัยอื่นๆ โดยที่ตั้งของโดรงการมีโดรงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน มีระบบสาธารณูปโภคอย่างครบถ้วน
ห่างจากสนามบินอู่ตะเภาประ มาณ 13 กิโลมตร, ทำเรือมาบตาพุต 3 กิโลเมตรและท่าเรือแหลมฉบัง 48
ระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก
ระบบไฟฟ้า
- มีโรงงานไฟฟ้ากำลังผลิตขนาด 50 เมกกะวัตต์
- แรงดันไฟฟ้า 115/22 กิโลโวลต์
ระบบน้ำประปา
- อ่างเก็บน้ำดอกกราย
- อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล
- จำนวนโรงงานผู้ใช้น้ำ 25 ราย
- ปริมาณการใช้น้ำประปา 242,162.58 ลูกบาศก์เมตร/เดือน
- ปริมาณการใช้น้ำดิบ 1,310,632.00 ลูกบาศก์เมตร/เดือน
ระบบโทรศัพท์
- สายตรง 1,700-3,000 คู่สาย
ระบบบำบัดน้ำเสีย
- แบบตะกอนเร่ง
- สามารถกำจัดน้ำเสียได้ 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
- ปริมาณน้ำเสีย 310,449.59 ลูกบาศก์เมตร/เดือน
ระบบเตาเผาขยะ
- เตาเผาขยะ สามารถเผาขยะได้ 500 กิโลกรัม/ชั่วโมง
