ทะเลแหวก เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจาก อิทธิพลของน้ำขึ้นน้ำลง และสันทรายของเกาะทั้ง 3 คือ เกาะทับ เกาะหม้อ และ เกาะไก่ ซึ่งอยู่ใกล้กันมีสันฐาณติดกันในท้องทะเลระดับใกล้เคียงกัน และในตำแหน่งที่พอดีกับทิศทางของกระแสน้ำที่พัดพาเอาทรายขึ้นมาทับถมกันจนเกิดเป็นแนวสันทรายเชื่อมเกาะทั้งสามเข้าด้วยกัน ในยามที่น้ำทะเลขึ้นปกติจะไม่เห็นสันทรายนี้ แต่พอถึงช่วงเวลาน้ำลงก็จะปรากฏขึ้นมาให้เห็น โดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน กลายเป็นหาดทรายขาวเชื่อมกันทั้งสามเกาะอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้สามารถเดินเล่น ไป – มา ได้ระหว่างเกาะ แต่ถึงแม้ว่าสันทรายจะไม่โผล่เราก็สามารถเดินเล่นได้ สันทรายทะเลแหวกขาวสวยเนียนนุ่มเมื่อสัมผัส เมื่อน้ำขึ้นทุกครั้งที่น้ำท่วมสันทรายก็เหมือนเป็นการทำความสะอาดหาดทรายไปในตัว ขยะหรือเศษไม้ต่างๆ คลื่นซัดมาติดชายหาดจะถูกกระแสน้ำได้ชะล้างทำความสะอาดแม้ทรายทุกเม็ด พร้อมที่จะอวดความงามในยามน้ำลงรอบต่อไป ทะเลแหวก อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร การท่องเที่ยวทะเลแหวก จะนิยมท่องเที่ยวทั้งหมด 4 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะปอดะ ซึ่งสามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน ส่วนช่วงเวลาน้ำลง บรรดาคนขับเรือนำเที่ยวจะทราบดี

เกาะไก่ หรือเกาะปอดะนอก หรือเกาะด้ามขวาน เกาะรูปร่างประหลาด ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเกาะอันหลากหลาย เนื่องจากชะง่อนผาที่ยื่นออกมาทางด้านใต้ ทำให้ผู้พบเห็นเกิดจินตนาการต่างๆกันไป บ้างก็เห็นเกาะคล้ายกับส่วนหัวของไก่ บ้างก็เห็นเป็นด้ามขวานที่วางตั้งอยู่ บ้างก็มองเห็นเป็นตัวการ์ตูนป็อบอาย น้ำทะเลโดยรอบใสมาก มีฝูงปลาชุกชุมและคุ้นเคยกับคน นักท่องเที่ยวจึงมักหยุดเรือแล้วลงไปว่ายน้ำและให้อาหารปลาลายเสือฝูงใหญ่ด้วยการ ให้ขนม ปังโรย ไว้รอบๆตัวแล้วปลาก็จะมาอยู่ล้อมรอบตัวเรา

เกาะทับ เป็นเกาะเล็กๆ มีหาดทรายเฉพาะด้านใต้ ยามน้ำลด หาดทรายทางด้านใต้นี้ จะเชื่อมต่อกับแนวสันทรายของเกาะปอดะนอก กลายเป็นสะพานธรรมชาติยาวประมาณ 200 เมตร แม้จะเป็นหาดทรายเล็กๆ แต่เม็ดทรายละเอียดและขาวมาก

เกาะหม้อ เป็นโขดหิน ไม่มีชายหาดให้ขึ้นไปบนเกาะ น้ำทะเลใสสะอาด เกาะหม้อ อยู่ห่างจากเกาะทับเพียง 70 เมตร หากน้ำลดจะมีสันทรายเชื่อมต่อกัน สามารถเดินจากเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งได้

ส่วนเกาะปอดะ แม้จะไม่มีสันทรายเชื่อมต่อกันเป็นทะเลแหวก แต่อยู่ใกล้เคียงกันจึงมักจะรวมกันในทริปท่องเที่ยวทะเลแหวก เกาะปอดะมีหาดทรายขาว น้ำทะเลใส บริเวณชายฝั่งของเกาะจะมองเห็นแนวปะการังหลากหลายชนิดที่ยังสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ชมได้เกือบตลอดปี และเป็นจุดที่ตกปลาได้ดีเพราะไม่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมมากนัก

การเดินทาง

รถยนต์

• เส้นทางการเดินทาง จากตัวจ.กระบี่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4204 ต่อด้วย ทางหลวงหมายเลข 4203 ถึง อ่าวพระนาง แล้วลงเรือที่อ่าวนาง
• จาก ถ.แสงชูโต มุ่งหน้า อ.เมืองกาญจนบุรี สังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายไป อ.ท่าม่วง เพื่อเลี้ยวซ้ายไปเข้าเส้นแสงชูโตเก่า ผ่านโรงพยาบาลท่าม่วง ถึงหอฬิกาให้เลี้ยวซ้าย แล้ววิ่งเลียบถนนคลองชลประทาน ผ่านเขื่อนแม่กลองจนสุดทาง จะพบ 3 แยก ให้เลี้ยวขวา ไปตามทางอีก 1 กม. จะพบแยกซ้ายเข้าวัดม่วงชุม เลี้ยวซ้ายไปตามทาง มีป้ายบอก วัดถ้ำเสือจะอยู่ติดกับวัดถ้ำเขาน้อย

อัตราการใช้บริการเรือหางยาวของสหกรณ์เรือหางยาวของอุทยานฯ

• ไปอ่าวไร่เลย์ อ่าวต้นไทร ถ้ำพระนาง คนละ 80 บาท
• เที่ยวเกาะปอดะ เกาะไก่ ทะเลแหวก คนละ 300 บาท
• เที่ยวเกาะห้อง เกาะผักเบี้ย ลาดิง (ราคาเหมาลำ นั่ง 6 คน) 2,800 บาท
• ไปเกาะไผ่ เกาะพี พี เหมาลำ (ราคาเหมาลำ นั่ง 5 คน) 3,800-5,000 บาท
• เที่ยว 4 เกาะเต็มวัน ได้แก่ เกาะไก่ ถ้ำพระนาง ทะเลแหวก ไร่เลย์ (ราคาเหมาลำ นั่ง 6 คน) 2,200 บาท
• เที่ยว 2 เกาะครึ่งวัน เกาะปอดะ ทะเลแหวก (ราคาเหมาลำ นั่ง 4 คน) 1,700 บาท