พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 รัฐบาลได้กำหนดนโยบายที่จะ พัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมให้มีความเจริญก้าวหน้า ทัดเทียมกับประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ ในเอเชีย และเพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคอุตสาหกรรม ซึ่งไม่สามารถพึ่งพาแต่ผลผลิตทางเกษตรกรรม ได้อย่างเดียว ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ผู้ว่างงานจำนวนมาก ภาระหนี้สินของประเทศ ที่เพิ่มพูนขึ้น โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือที่เราคุ้นหูในชื่อ “โครงการอีสเทิร์น ซีบอร์ด” จึงได้เริ่มต้นในปี พ.ศ.2524 ครอบคลุม 3จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของการพัฒนาฐานการผลิตอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีมาตรฐานสูงขึ้น อย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงการผลิตของโลก ถือเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนด้าน อุตสาหกรรม อีกทั้ง บรรเทาความแออัดของกรุงเทพมหานคร เกิดการกระจายกิจกรรมทาง เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไปสู่ภูมิภาค ด้วยโครงสร้างทางกายภาพที่เอื้ออำนวย การคมนาคมขนส่ง เชื่อมต่ออย่างสะดวก และนโยบายส่งเสริมการค้า การลงทุนภาคอุตสาหกรรมของรัฐบาล ทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เป็นหนึ่งใน 2 พื้นที่ (ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง) ที่มีพื้นที่ในเขต ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลงวันที่24 มีนาคม 2540 และต่อมาได้มีผู้สนใจจะประกอบอุตสาหกรรมในเขตพื้นที่นี้เพิ่มมากขึ้น จึงได้ขยายพื้นที่ออกไปอีกเพื่อรองรับการลงทุนประกอบอุตสาหกรรม อาศัยอำนาจตามความ ในมาตรา 5 และมาตรา 36 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจึงประกาศเปลี่ยนแปลงเขต เขตนิคม อุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ในท้องที่ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง โดยประกาศ ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2545 การ ขยายเขตนิคม ฯ แห่งนี้ มีอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากมีประกาศการเปลี่ยนแปลงเขต ฯ หลายฉบับ จนปัจจุบันมีพื้นที่ดำเนินการประมาณ 10,080 ไร่
ระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก
ระบบน้ำประปา
- สามารถจ่ายน้ำได้ 7 ลูกบาศก์เมตร/ไร่/วัน
ระบบไฟฟ้า
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอปลวกแดง
- มีสถานีไฟฟ้าย่อย ขนาด 100 เมกกะวัตต์
- มีระบบสายส่ง 115 กิโลโวลต์ และ 22 กิโลโวลต์
ระบบโทรศัพท์
- ทีโอที และ ทีที แอนด์ ที
- กสท โทรคมนาคม
ระบบบำบัดน้ำเสีย
- สามารถบำบัดได้ 15,600 ลูกบาศก์เมตร/วัน
ระบบป้องกันอัคคีภัย
- ติดตั้งหัวจ่ายดับเพลิงตามแนวถนนทุกระยะ 250 เมตร
- มีรถดับเพลิงจำนวน 2 คัน (ขนาด 10,000 ลิตร และขนาด 6,000 ลิตร)
